วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

๕ ธันวามหาราช

วันพ่อแห่งชาติ
๕ ธันวาคม ๒๕๕๓
เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา

ขอเดชะ พระองค์ พระทรงศรี
ใต้ร่มพระ บารมี สุรีย์ฉาย
พระเมตตา ดุจน้ำ แผ่กำจาย
ดุจฝนสาย ฉ่ำหล้า พรมนาคร
ภาพพ่อซึ่ง ตรึงใน หัวใจลูก
ภาพพ่อปลูก รากนำ ดำริสอน
พ่อทุกข์ทน เพราะห่วง ปวงนิกร
ลูกหลับนอน อุ่นใจ ร่มใบบุญ
พระเสโท หยดไหล ชุ่มในชาติ
รอยพระบาท ประทับหล้า ป่าเขาขุน
ราษฎร์ร่มเย็น ศิระ พระการุณย์
แสนอบอุ่น อุรา ทั่วธาตรี
วันเฉลิมพระชนมพรรษา
เหล่าปวงข้าฯ เทิดองค์ พระทรงศรี
กราบ แทบบาท จงรัก พระจักรี
องค์ภูมินทร์ ขอทรงพระ เจริญเทอญ

ขอเดชะ ธ ในใจไทยทั้งผอง
ผู้เรืองรองด้วยบุญญานานับแสน
เป็นมิ่งขวัญปวงประชาทั่วทั้งแดน
ทุกถิ่นแคว้นต่างแซ่ซ้องสาธุการ
ขอองค์พระทรงธำรงค์ยั้งคงอยู่
สถิตย์คู่ฉัตรแก้วแคล้วภัยผอง
เหล่าปวงข้าฯก้มกายามาเฝ้ารอง
พระบาทป้องจากกรวดหินแลดินทราย
พระเมตตาดุจดั่งฝนชโลมหล้า
เหล่าประชาต่างเทิดทูลขึ้นเหนือหัว
ยอมพลีกายถวายให้ไม่หวั่นกลัว
พระเจ้าอยู่หัวของปวงชน...ขอจงทรงพระเจริญ


ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
Long Live The Great King


(ผู้ประพันธ์ ธาตรีและคณะ)

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โภชนนะบำบัด Dietatics ตอนสุดท้าย

เริ่มเข้าฤดูหนาวแล้วอากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้น หลังจากที่ผ่านพ้นหน้าฝนที่ทำให้เกิดอุทกภัยไปเกือบทั่วประเทศสร้างความเสียหายอย่างมากทั้งกับบ้านเเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตร ถนนหนทาง ซึ่งตอนนี้ทุกๆ ภาคส่วนของประเทศก็ร่วมกันระดมความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ หมอก็เชื่อว่าในที่สุดแล้วความร่วมมือร่วมใจของพวกเราทั้งหมดจะทำให้วิกฤตครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องของเรากันต่อซึ่งว่าด้วยเรื่อง โภชนะบำบัด ซึ่งจะขอเสนอเป็นตอนสุดท้าย




วิตามินบี 2 (Riboflavin) มีอยู่ในยีสต์ ตับ ไต เนยแข็ง ไข่ไก่ เนื้อวัว โยเกิร์ต นมสด เป็นส่วนหนึ่งของโคเอ็นไซม์สองชนิด คือ FMN และ FAD เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยา denydrogenase นำอิเลคตรอนไปยังเนื้อเยื่อทั้งหมด และยังเชื่อมกับขบวนการย่อยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน ไปสิ้นสุดที่ oxidative pathway ทำให้กรดไขมันแตกตัว

ความเป็นพิษ ยังไม่พบความเป็นพิษ
การขาดแคลน ถ้าขาดจะทีผิวแห้งและเป็นขุย ผื่นแดง กล้ามเนื้อส่วนท้ายอ่อนแรง โลหิตจาง ตายเฉียบพลัน ริมฝีปากแตกเป็นร่อง ลิ้นอักเสบ กระจกตาเกิดแผลเป็น ข้อต่ออักเสบ ไขมันสะสมชั้นใต้ผิวหนังและในตับ มีลูกยาก อัณฑะฝ่อ

ความต้องการต่อวัน 2 mg. ในแมว 3.75 mg. ในสุนัข

ขนาดที่ใช้ในการรักษา

โรค Hyperthyroid ในแมว 2-10 mg. / วัน
Food Intolerance 4-40 mg. / วัน
ม้าชรา 25-75 mg. / วัน
โรคกล้ามเนื้อขาวในม้า (Azoturia) 25-200 mg. / วัน

วิตามินบี 3 (Niacin, Nicotonic Acid, Nicotinamide) มีในไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว จมูกข้าวสาลี ไก่งวง ปลาค๊อต ไข่ไก่ เนยแข็ง เป็นส่วนประกอบของโคเอ็นไซม์สองชนิด มีความสำคัญในขบวนการอ๊อกซิเดชั่นในเนื้อเยื่อทุกชนิด ช่วยสังเคราะห์กรดไขมัน

การขาดและความเป็นพิษ

อาการที่พบเมื่อขาดในสุนัขคือถ่ายท้องเสียมีเลือด ลิ้นดำ โลหิตจาง ปากและลิ้นมีแผลหลุมและแดงจัด เสียชีวิต

อาการในแมวอาจจะมีท้องเสีย ผอมแห้ง เสียชีวิต เมื่อได้รับวิตามินมากเกินไปจะมีเส้นเลือดขยายตัว คันผิวหน้าปวดแสบปวดร้อน

ความต้องการต่อวัน ในแมว 5 mg. สุนัข 7.5 mg.

Biotin (Vitamin H, Coenzyme R.) อยู่ในกุล่ม Vitamin B complex เป็นอาหารที่มีอยู่ในธรรมชาติจึงมักไม่เกิดอาการขาดวิตามินชนิดนี้ ในสุนัขและแมวที่มีอาการขาดวิตามินจะมีผิวแห้ง ขนร่วง โดยเฉพาะรอบๆ ดวงตา อ่อนเพลีย ท้องเสีย อัมพาตที่ขาหลัง อาหารประเภทไข่ดิบปริมาณมากจะทำให้เกิดการขาด Biotin ได้

หน้าที่ เป็น coenzyme ในปฏิกิริยา carboxylation เช่น เกี่ยวข้องกับ Acetyl-Co A, pyruvate เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนังและแล็บ

ไม่มีรายงานความเป็นพิษ

หากได้ติดอ่านเรื่องราวของโภชนะบำบัดใน 3 ตอน ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทใดหรือวิตามินชนิดไหน ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยหลักแห่งความพอเหมาะพอดี ไม่มากจนเกินไปหรือน้อยจนเกินควร ดังนั้นไม่ว่าเราหรือสัตว์เลื้ยงของเราต้องการสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพและมีความสุข เราควรยึดหลักความพอดีอย่างถูกต้องเหมาะสม สุขภาพที่ดีที่เราวาดฝันไว้ก็อยู่ไม่ห่างไกล


วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โภชนะบำบัด Dietetics ตอนที่ 2

หลังจากหายหน้าหายตาไปพักใหญ่เนื่องจากงานที่รัดตัว พอมีเวลาปุ๊บก็ต้องรีบมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้จากคราวที่แล้วว่าด้วย โภชนะบำบัด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาว่ากันต่อเลยแล้วกัน


วิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน) Pyridoxine เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ มีอยู่ในยีสต์ จมูกข้าวสาลี เนื้อสัตว์ ทำหน้าที่เสมือนสารตั้งต้นที่กระตุ้นเอนไซม์ (enzyme) ที่ใช้เร่งปฏิกิริยาต่างๆ ที่เกี่ยวกับเมตาบอลิสม์ (Metabolism) ต่างๆ โดยเฉพาะปฏิกิริยาทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับกรดอะมิโน กรดไขมัน และช่วยสร้างสารเสตียรอยด์ (Steroid)
อาการขาด ทำให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนัง เป็นความผิดปกติของระบบประสาท เช่น ชัก และ ระบบเลือด เช่น โลหิตจาง ระดับธาตุเหล็กสูงในกระแสเลือด กระดูกงอก (artherosclerosis)

ไม่พบรายงานเรื่องความเป็นพิษ

ความต้องการต่อวัน สุนัข 0.12 mg./วัน แมว 0.4 mg./วัน

ขนาดที่ใช้ในการรักษา โรคชราใน สุนัข และ แมว B1,2 และ 6 5-30 mg.
โรคชราใน ม้า B1,2 และ 6 25-75 mg.
โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroid) ในแมว 2-10 mg./วัน
แพ้อาหาร (Food intolerance) ในสุนัขและแมว 4-40 mg./วัน
ภูมิแพ้ผิวหนังในม้า 10-100 mg./วัน
โรคกล้ามเนื้อขาวในม้า 25-200 mg./วัน

คาร์นิทีน (Carnitine) คาร์นิทีนเป็นส่วนประกอบของเซลล์สัตว์ทุกชนิด มีลักษณะคล้ายวิตามิน (ถ้าเป็นวิตามินจะเป็นสารที่ขาดไม่ได้เลยในทุกสภาวะของร่างกาย) แหล่งที่พบส่วนมากเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ปลา นม และอาหารที่ได้จากผลิตภัณฑ์นม และ เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นเองของร่างกาย ทำหน้าที่ขนส่งกรดไขมันสายยาวเข้าสู่ไมโทรคอนเดรีย (Mitochondria) ในปฏิกิริยา เบต้า-ออกซิเดชั่น (Beta-Oxidation) ในร่างกายมี L-Carnitine 95-98% พบมากที่กล้ามเนื้อหัวใจและกล้ามเนื้อทั่วไป

อาการขาด กล้ามเนื้ออ่อนล้าเรื้อรัง น้ำตาลลดต่ำผิดปกติขณะอดอาหาร กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ ตับโต

ความเป็นพิษ ไม่มีรายงานความเป็นพิษในสุนัขและแมว

วิตามิน บี12 (Cyanocobalomin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ พบได้ในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ในตับ ปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ ยีสต์ ไม่มีในพืช ทำหน้าที่สังเคราะห์ DNA สร้างเม็ดเลือดแดง Myelin (สารไขมันที่เป็นส่วนปลอกหุ้มใยประสาท) สังเคราะห์ Methionine และ choline

อาการขาดและความเป็นพิษ ยังไม่พบ (แต่ในการทดลองพบว่าเกิดภาวะโลหิตจางแบบ macrocytic)

ความต้องการต่อวัน สุนัข 3 mg./วัน แมว 2 mg./วัน

ในคราวนี้ขอเสนอไว้เพียงเท่านี้ยังมีวิตามินอีกหลายชนิดซึ่งจะนำมาเสนอต่อในคราวหน้าซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายสำหรับ โภชนะบำบัด Dietetics

ในระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และใกล้จะย่างเข้าฤดูกาลใหม่ นอกจากจะต้องดูแลสุขภาพของเจ้าตูบและเจ้าเหมียวแล้ว บรรดาเจ้าของก็อย่าได้ละเลยสุขภาพของตนเองเป็นสำคัญ ปฏิบัติและดูแลตนเองให้แข็งแรงห่างไกลจากโรคภัย เท่านี้ทั้งคุณและบรรดาเจ้าตัวเล็ก ตัวใหญ่ ก็มีความสุขได้สุดๆ แล้ว


วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โภชนะบำบัด Dietetics ตอนที่ 1


ช่วงนี้ย่างเข้าฤดูฝนเต็มที่แล้วหลังจากวันเข้าพรรษา ฝนที่ตกตลอดแทบไม่เว้นแต่ละวัน และสิ่งที่มาพร้อมกับฝนและความอับชื้น ศัตรูตัวฉกาจของบรรดาสัตว์เลี้ยงที่แสนรักนั่นก็คือบรรดา เห็บ หมัด ที่มีจำนวนมากและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วในฤดูกาลนี้ พาหะนำโรคร้ายนานาชนิดและยังสามารถสร้างความทรมานให้กับเจ้าตูบและเจ้าเหมียวได้อย่างมาก ในช่วงนี้หมอจึงอยากแนะนำให้พวกเราช่วยกันดูแลพวกเขาเป็นพิเศษสักหน่อย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ที่นอนของสัตว์เลี้ยง หรือตามบริเวณที่อับชื้นต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งมักจะกลายเป็นที่อยู่และแพร่พันธุ์ของเหล่า เห็บ หมัด เป็นอย่างดี

การใส่ใจดูแลในสิ่งแวดล้อม และสนใจแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการป้องกันและดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขอย่างแน่นอน

และเรื่องที่จะมาเล่าในคราวนี้จะขอกล่าวถึงเรื่องของการป้องกันอีกเช่นกัน ครั้งนี้ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน เรื่องใกล้ตัวที่มีความสำคัญมาก แต่มักจะถูกปล่อยปละละเลยหรือมองข้ามความสำคัญไป เพราะผู้เลี้ยงส่วนใหญ่มักตามใจปากหรือทนลูกอ้อนและสายตาเว้าวอนจากบรรดาเจ้าตูบและเจ้าเหมียวไม่ไหว ในหลายๆ ครั้งสัตว์ที่เข้ามารักษาก็เกิดอาการป่วยเนื่องมาจาก การกินที่ไม่ถูกต้อง นี่แหละ อาหาร หากเรากินได้ถูกส่วนและเหมาะสมก็เป็นได้ทั้ง การบำรุงสุขภาพร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และยังสามารถป้องกันและ รักษาโรคได้

"โภชนะบำบัด" (Dietetics) คือการใช้อาหารหรือสารอาหารในการฟื้นฟูสุขภาพและแก้ปัญหาโรค เมื่อได้รับอย่างเหมาะสมตามความต้องการของร่างกาย เรามาเริ่มกันที่

วิตามิน บี1 (ไทอามีน) Thiamine มีในยีสต์ ถั่วมีฝัก ส้ม มันฝรั่งสุก ขนมปัง ไข่แดง ร่วมเป็นตัวตั้งต้นของ โคเอนไซม์ Coenzyme ทำหน้าที่ผลิตพลังงานให้ร่างกาย มีผลต่อเนื้อเยื่อทั้งหมด โดยเฉพาะ เส้นประสาท สมอง และหัวใจ

การขาดและความเป็นพิษ เกิดอาการเบื่ออาหาร อาเจียน น้ำหนักลด ขาดน้ำ อัมพาต เดินไม่ตรง ชัก หัวใจผิดปกติ มีการโค้งลงของคอ ที่เรียกว่า Chastek paralysis, ม่านตาขยาย

ไม่พบความเป็นพิษในสุนัขและแมว

ความต้องการต่อวัน 2 mg. ในแมว และ 7.5 mg. ในสุนัข

โคลีน (Choline) เป็นวิตามินที่สังเคราะห์ได้เองที่ตับ มักไม่มีอาการขาด ทำหน้าที่ช่วยการสังเคราะห์สารสื่อประสาท ชื่อ Acetylcholine กระตุ้นการรับรู้ของปลายประสาท ช่วยสังเคราะห์ Phosphatidylcholine ซึ่งมีความสำคัญในผนังเซลช่วยส่งไขมันออกจากตับและช่วยสังเคราะห์ Methionine และ Dimethylglycine โคลีนมีอยู่มากในเนื้อสัตว์และ ถั่วต่างๆ

อาการขาด เกิดภาวะไขมันพอกตับ โปรตีนไข่ขาว Albumin ต่ำในเลือด ค่าตับ alkaline phosphatase hematocrit hemoglobin สูงขึ้น ระยะแข็งตัวของเลือด prothrombin time นานขึ้น

ความเป็นพิษ ท้องร่วงเรื้อรังหากได้รับเกิน 10 g./วัน

ความต้องการต่อวัน สุนัข 7.5 mg. แมว 5 mg.

วิตามิน บี 5 (กรดแพนโทเทนิก) Pantothenic Acid แพนเททีน แคลเซียมแพนโททีเนต
มีอยู่ในอาหารส่วนใหญ่ เช่น ตับ ถั่วลิสง เมล็ดงา แอปเปิ้ล ผลิตภัณฑ์นม ไข่ เนื้อสัตว์ วิตามิน บี 5 เป็นส่วนประกอบใน โคเอนไซม์ เอ Coenzyme A ซึ่งเกี่ยวข้องเกือบจะทุกขบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีนเป็นส่วนใหญ่ ช่วยทำให้เกิดพลังงานในเซลล์

อาการขาด เบื่ออาหาร น้ำตาลในเลือดต่ำ คลอไรด์ในเลือดต่ำ ยูเรียในเลือดสูงขึ้น กระเพาะลำไส้อักเสบ ชัก ไขมันพอกตับ โคม่า และอาจเสียชีวิตได้

ยังไม่มีความรายงานความเป็นพิษ

ความต้องการต่อวัน สุนัข 7.5 mg. แมว 5 mg.
ใช้ในการรักษาอาการแพ้อาหารในสุนัขและแมว 20-150 mg.

ยังมีวิตามินอีกหลายชนิดซึ่งจะนำมาเสนอให้ได้ติดตามกันต่อในคราวหน้า หวังว่าบรรดาเจ้าตูบและเจ้าเหมียว จะได้ กินดีมีสุขและถูกหลัก กันมากขึ้น ก็น่าจะทำให้บรรดาผู้เลี้ยงได้ กินอิ่มนอนหลับ เพราะบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักสุขภาพดีกันถ้วนหน้า




วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การฝังเข็มสุนัข Dog acupuncture


ในคราวก่อนๆ หมอได้เคยกล่าวถึง การรักษาในแบบแพทย์ทางเลือก ซึ่งโดยหลักของแพทย์ทางเลือกนั้นคือ การบรรเทาอาการ ฟื้นฟู และส่งเสริมการรักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันหนึ่งในนั้นคือ การฝังเข็ม (Acupuncture) และประโยชน์ที่ได้จากการฝังเข็มทำให้เลือดและระบบลมปราณไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกายที่เจ็บป่วย จากการศึกษาของแพทย์แผนปัจจุบันยังพบว่าการฝังเข็มทำให้เกิดการหลั่งสาร "เอนเคพฟาลีน และเอนดอร์ฟิน" ซึ่งจะไปช่วยระงับอาการปวดได้ นอกจากนี้ยังมีสารสื่อประสาทและ Mediator ที่คอยช่วยลดอาการอักเสบและช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมอาการบาดเจ็บอีกด้วย การรักษาด้วยการฝังเข็มยังเป็นที่ยอมรับของ องค์การอนามัยโลก และรับรองการรักษาอาการป่วยกว่า 30 โรค

ในครั้งนี้หมอขอเสนอการรักษาด้วยการฝังเข็ม ในคลิปวิดิโอเป็นการฝังเข็มให้กับสุนัขเพศเมีย ชื่อ น้องเฟิร์น อายุ 10 ปี มีอาการป่วยเรื่อรังจากข้อขาหลังอักเสบ ทำให้ไม่สามารถเดิน หรือวิ่งได้ดี จนเคยเกือบจะต้องพิการและไม่สามารถใช้ขาหลังได้ ก่อนหน้านี้น้องเฟิร์นได้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดและรับการฝังเข็มจนอาการดีขึ้นและสามารถเดินและวิ่งได้เกือบปกติ แต่อาการของน้องเฟิร์นกลับมาไม่ดีอีกเนื่องจากได้รับการดูแลที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมตามที่หมอได้แนะนำ ซึงหมอมักจะย้ำเตือนกับผู้เลี้ยงอยู่เสมอๆ เรื่องการป้องกัน ดูแล และเอาใจใส่กับบรรดาสัตว์เลี้ยง เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา



ไม่ว่าจะเป็น การรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน หรือ การแพทย์ทางเลือก ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการเอาใจใส่ดูแล และการปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่เบื้องต้น ทั้งในเรื่องอาหารการกิน สภาพแวดล้อมที่ดี และสภาพจิตใจ ซึ่งบรรดาสัตว์เลี้ยงของเราต้องการไม่น้อยไปกว่าอย่างอื่นเลย แต่ถึงกระนั้นหากสัตว์เลี้ยงของเราต้องเจ็บป่วยขึ้นมา การรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งไม่ว่าการรักษานั้นจะเป็นด้วยวิธีใด เพื่อสุขภาพอันดีของบรรดาสัตว์ที่เรารัก

วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เป็นเอดส์ยังมีความหวัง (2)

จากบทความที่แล้วหมอได้เล่าถึงผลของการใช้การแพทย์ทางเลือก ในการบรรเทาอาการแทรกซ้อนของโรคเอดส์ในแมว ซึ่งได้ผลดี แต่กรณีที่ต้องใช้วิธีฝังเข็มนั้นค่อนข้างจะยุ่งยากหากไม่สามารถนำแมวมาพบหมอได้ ดังนั้นจึงขอเล่าเพิ่มเติมถึงการใช้ การนวดกดจุดแบบการแพทย์จีน แทนการฝังเข็ม แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่าอ่านของอาจารย์ฝรั่งมา ไม่ได้ใช้วิธีนี้กับสัตว์ป่วยเพราะตัวเองเป็นสัตวแพทย์จึงชอบวิธีที่เห็นผลเร็ว การนวดกดจุดต้องทำบ่อยกว่าเหมาะสำหรับเจ้าของสัตว์ หรือ คนใกล้ชิด

ตำแหน่งจุดในร่างกายของคนสามารถเทียบลักษณะทางกายวิภาคมาเป็นของสัตว์ได้ โดยใช้จุดฝังเข็มเป็นเกณฑ์ จุดที่แนะนำให้ใช้กดจุดต่อไปนี้ Dr. Cheryl Schwartz ได้เป็นผู้ลองทำการรักษาแมวป่วย ด้วยโรคไวรัสรวมถึงโรคเอดส์ด้วย เธอมีประสบการณ์ในการใช้การแพทย์ทางเลือกมาไม่น้อยกว่า 15 ปี น่าเสียดายที่เธอไม่ได้รวมเป็นงานวิจัย จึงไม่มีตัวเลขแมวป่วยที่แน่นอน

จุดที่แนะนำมีดังนี้

ST36 หรือมีชื่อจีนว่า จู๋ซานหลี่

หน้าที่ : ช่วยพลังชี่ทั่วทั้งร่างกายแข็งแรงขึ้น บำรุงพลังที่เกี่ยวกับภูมิต้านทาน กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว และช่วยการสร้างเลือดและการย่อยอาหาร

ตำแหน่ง : ด้านนอกของขาหลังใต้หัวเข่า ใกล้กับสันหน้าแข้ง จุดนี้อยู่กึ่งกลางของมัดกล้ามเนื้อ กดด้วยแรงกดคงที่เป็นวงกลม

PC 6 หรือ เน่ยกวาน

หน้าที่ : เพิ่มการสร้างเม็ดเลือดขาว โดยเฉพาะเมื่อใช้กับ ST36 นิยมใช้ในเรื่องวิตกกังวล คลื่นไส้

ตำแหน่ง : ด้านในของขาหน้า เหนือระดับอุ้งเท้าอันบนสุดพอดี ซึ่งอุ้งเท้านี้จะอยู่เหนือข้อเท้าเล็กน้อย จุดนี้อยู่ระหว่างเส้นเอ็นสองเส้นที่ชิดกันมาก ยาวลงมาตามแนวขา ให้งอข้อเท้าขาหน้าของแมว และกดจุดลงไปบนระหว่างเส้นเอ็นนั้น

LI 4 หรือเหอกู่

หน้าที่ : กระตุ้นระบบภูมิต้านทานโดยเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดขาว บทบาทในการกำจัดสารพิษต่างๆ เพิ่มการสร้าง interferon ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัส จุดนี้สามารถใช้ในระหว่างมีการแพร่ระบาด ใช้ลดไข้ ป้องกันโรค ทำให้ระบบน้ำเหลืองยังคงทำงาน และเสริมพลังภูมิต้านทาน

ตำแหน่ง : ง่ามนิ้วของนิ้วติ่งของขาหน้ากับกระดูกที่ต่อจากข้อเท้าของนิ้วถัดไป เราสามารถนวดจุดนี้ไปบนง่ามนิ้ว โดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่โป้งของเรานวดเบาๆในลักษณะเดินหน้าและถอยหลัง

LI 11 หรือชีฉือ

หน้าที่ : เพิ่มการสร้างเม็ดเลือดขาว กำจัดสารพิษ และลดไข้

ตำแหน่ง : ด้านนอกของขาหน้า ที่ข้างหลังของปุ่มกระดูกข้อศอกเล็กน้อยขณะงอข้อศอก กดที่จุดนี้วนเป็นวงกลมด้วยแรงกดคงที่

GV 14 หรือ ต้าจุ้ย

หน้าที่ : กระตุ้นการหมุนเวียนของเม็ดเลือดขาวที่จะช่วยกำจัดพิษ ใช้ลดไข้ได้ดีเมื่อมีการติดเชื้อเฉียบพลัน

ตำแหน่ง : บนเส้นกลางตัวของสันหลังบริเวณกระดูกสันคอชิ้นสุดท้ายกับกระดูกสันหลังของอกชิ้นแรก ตรงเหนือรอยต่อของกระดูกสองชิ้นนี้ หาจุดนี้พบง่ายได้โดยการขยับคอแมวให้ก้มลงและไปข้างหน้า หรือขยับคอให้เงยขึ้นลง จุดจะอยู่ตรงที่กระดูกคอสุดท้ายอยู่นิ่งต่อกับกระดูกสันหลังของอก ใช้ปลายนิ้วหรือเล็บกดไปข้างหน้าและหลังกลับไปกลับมา ด้วยแรงกดที่มากแต่ไม่ทำให้เขาเจ็บ

SP 6 หรือ ซานอินเจียว

หน้าที่ : ช่วยของเหลวและเลือดในร่างกาย ช่วยการไหลเวียนเลือดและพลังให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท้องเสีย อาเจียน น้ำหนักลด

ตำแหน่ง ; ด้านในของขาหลัง หลังกระดูก ใต้จุดเริ่มต้นของเอ็นร้อยหวายที่ต่อมาจากมัดกล้ามเนื้อ

K I3 หรือ ไท่ซี

หน้าที่ : ช่วยไตควบคุมระบบภูมิต้านทาน ดีสำหรับอาการเลือดจาง ลิวคีเมีย การขาดน้ำ ปัญหาของไขกระดูก

ตำแหน่ง : ด้านในของขาหลัง ที่พอดีเหนือข้อเท้า อยู่กึ่งกลางระหว่างเอ็นร้อยหวายกับปุ่มกระดูกข้อเท้าด้านหลัง จับจุดนี้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือนาน 15หรือ 30 วินาที

BL 23 หรือเสิ้นซู่

หน้าที่ : กระตุ้นภูมิต้านทาน

ตำแหน่ง : หลุมบนกล้ามเนื้อสองข้างของกระดูกสันหลัง ระหว่างกระดูกเอวท่อนที่ 2 และ 3 กดในลักษณะวนเป็นวงกลมออกไปนอกตัว กดไปข้างหน้าและหลังกลับไปกลับมา

อาจต้องใช้ความพยายามและความอดทนอยู่ซักหน่อยสำหรับผู้เลี้ยง แต่ทั้งหมดนี้คงเป็นเรื่องง่ายๆ ได้ เพราะความรักและความผูกผันที่ทั้งคุณและเจ้าเหมียวมีให้กัน หากเราได้เห็นพวกเขามีความสุขมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพียงแค่นั้นก็ทำให้หายเหนื่อยได้ หมอก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คน

เป็นเอดส์ยังมีความหวัง


ในบทความนี้จะขอเปลี่ยนบทความเบาๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงมาเป็นเรื่องหนักๆ ของทั้งคนและเจ้าเหมียวแสนรัก

โรคเอดส์ เป็นโรคที่หากใครได้ยินได้ฟังก็ต้องรู้สึกประหวันพรันพรึง ไม่อยากพบพานหรือเข้าใกล้ด้วยประการทั้งปวง เพราะเข้าใจว่าโรคนี้เป็นแล้วไม่หายมีและมีแต่รอวันที่อาการจะทรุดลงเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงโรคเอดส์นั้นถือว่าเป็นโรคที่รักษาได้ถึงแม้จะไม่หายขาด และการลงมือป้องกันปราบปรามโรคร้ายนี้ยังคงต้องเข้มข้นกันต่อไป

หัวข้อที่น่าสนใจก็คือ การแพทย์ทางเลือก จะมีส่วนเสริมภูมิต้านทานแก่ผู้เป็นโรคนี้ได้หรือไม่??? อย่างเช่น การฝังเข็มเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หมอเคยถามแพทย์ฝังเข็มว่าได้เคยทดลองทำการฝังเข็มให้กับผู้ป่วยบ้างไหม คำตอบที่ได้รับทำให้ต้องอึ้งและจนด้วยเหตุผลก็คือ "ไม่กล้าทำ เพราะกลัวเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากเข้มที่มาจากผู้ป่วย"

ถ้าเราลองหันมาดูคุณเหมียวที่ไม่ยอมนอนหวดจนต้องยืนยันความเป็นแมวเก้าชีวิตด้วยความเข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจ เคล็ดลับคือ เพราะไม่รู้เลยไม่เสียกำลังใจ (ใครที่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่กำลังเสียใจกรุณาเล่าเรื่องแมวตัวเล็กๆ เหล่านี้ให้เขาเป็นตัวอย่าง เผื่อเขาจะลองคิดอย่างแมวดู) อาจารย์ฝรั่งของหมอมีเพื่อนทำงานทางภาคเหนือของบ้านเราเคยเล่าให้ฟังว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์ชาวไทยเคยได้รับการฝังเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (ซึ่งไม่มีตัวรายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการ) กลับพบว่าผลไม่เป็นตามที่คาดหวัง สิ่งเดียวที่หมอคิดว่ามีความแตกต่างกันระหว่างคนกับแมวนั้นก็คือ กำลังใจ

จากการที่หมอได้ติดตามแมวมากกว่า 5 ตัว ที่ป่วยด้วยโรคนี้และได้รับการรักษาด้วยการฝังเข็มสัปดาห์ละครั้ง นาน 5 ครั้ง ซึ่งพบว่าแมวมีอาการกระปรี้กระเปร่า อยากอาหาร เริ่มเล่นหยอกล้อบ้าง ส่วนแผลในปากและอาการท้องเสียนั้นอาจจะดีขึ้นจากยาแผนปัจจุบันที่ใช้ร่วมกัน โดยถือ หลักการแพทย์ผสมผสาน

แมวเหล่านี้อาจมีผลเลือดที่ไม่ดีนัก เช่น เลือดจาง ติดเชื้อ เม็ดเลือดขาวต่ำ ก็จะให้ยาแผนปัจจุบันกินร่วมด้วย ติดที่ว่าเป็นงานวิจัยจึงไม่สามารถนำยาสมุนไพรมาใช้ในกลุ่มทดลองได้ งานวิจัยนี้ยังไม่สิ้นสุดโครงการแต่ขาดนิสิตมาทำงานในส่วนของห้องปฏิบัติการจึงยังไม่สรุปผล แต่ที่หมอรุ้สึกก็คือ อาการจะดีขึ้น (มีตัวหนึ่งดีเกินไปจนหนีเที่ยวไปประสบเหตุถูกสุนัขรุมกัดตาย ทำเอาหมอมึนไประยะหนึ่ง)

ทีนี้ ถ้าเราไม่ฝังเข็มจะเลือกใช้วิธีอื่นได้บ้างไหม คำตอบคือ มี ใช้ได้ทั้งยาสมุนไพรจีน วิตามิน อาหารเสริมแบบต่างๆ รวมถึงการนวดกดจุดแบบจีน ส่วนผลนั้น หมอไม่ทราบเนื่องจากไม่ได้ลองทำวิธีเหล่านี้เป็นหลัก แต่ผู้เขียนตำรานวดกดจุดแบบจีน Dr. Cheryl Schwartz ได้แนะนำให้เจ้าของแมวลองใช้ดู ซึ่งเธอมีประสบการณ์ด้านการสัตวแพทย์ทางเลือกมากว่า 15 ปีแล้ว

ซึ่งจะขออนุญาตแปลบางส่วนมาลงไว้เป็นวิทยาทาน ส่วนตัวของหมอที่ใช้ในตัวที่ป่วยนอกเหนืองานวิจัย (งานวิจัยจะกำหนดตำแหน่งจุดไม่สามารถเปลี่ยนตามอาการได้) ก็ไม่ตรงกับผู้เขียนตำราเนื่องจากบ้านเรามียาดีอยู่มาก หาได้ง่าย และเน้นการฝังเข็มมากกว่าจึงขอไม่กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัว แต่อาจจะนำมาเล่าให้ฟังในครั้งต่อๆ ไป

หลักการใช้สมุนไพรในรายที่มีภูมิต่ำ จะใช้เพื่อบำรุง (tonification) และใช้เพื่อการป้องกัน (prevention) ดังนั้นไม่ว่าคุณจะแนะนำใครที่เป็นโรคนี้ ก็ไม่หนีหลักการ สองอย่างนี้

ยาจีน ที่หมอเขาแนะนำให้ใช้ชื่อ Shen Qi Da Bu Wan เป็นยาเพิ่มพลังงาน ช่วยให้อยากอาหาร ลดอาการกระหายน้ำ ในแมว ให้วันละ 1-2 เม็ด เช้า-เย็น

ในส่วนของ อาหารเสริม วิตามิน ใช้พื่อการป้องกัน ในกลุ่มนี้ มีทั้งพวก antioxidant เช่น วิตามินซี (โซเดียมแอสคอร์เบต) 500 มก. เช้า-เย็น (ต้องระวังท้องเสีย อาจลดขนาด หรือ งดไป)

วิตามินอี (ลดการอักเสบ) ใช้ 50 iu และ ซีลีเนียม (ใช้เสริมการดูดซึมวิตามินอี) 5-6 mcg วิตามินเอผสมกับพวกแครอทีน มีใน แครอท มะละกอ ฟักทอง ช่วยเรื่องทางเดินหายใจ แต่มีข้อจำกัดถ้าตับไม่ค่อยดี อาจมีพิษสะสมได้ ขนาดที่ใช้ 2,000 mg. สาหร่ายเซลเดียวหรือที่มีสีเขียวครอโรฟิล ช่วยลดแบคทีเรียและกำจัดพิษจากร่างกาย ในบางรายใช้แล้วอาจมีอาการท้องเสียหรือ เบื่ออาหาร ให้น้อยมาก 1/16 ช้อนชา วิตามินบีรวมและบี12 1/4 เม็ด/วัน หรือขนาด 1/4ของคน ผงสาหร่าย kelp หรือสาหร่ายอื่นๆ จะมีแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม ช่วยเสริมการดูดซึมแคลเซียม 1/8 ช้อนชา/วัน แบคทีเรียกลุ่ม Acidophilus และ Bifidus แบคทีเรียสำคัญในลำไส้ จะช่วยกำจัดเชื้อโรคที่เป็นพิษ 1/4 ของขนาดในคน Superoxide dismutase และ antioxidant อื่นๆ เช่น catalase peroxide เป็น antioxidant ภายในเซลช่วยดึงสารพิษออกจากเซล ช่วยการกำจัดพิษในตับและผิวหน้าของข้อต่อ กรดไขมันที่ขาดไม่ได้ พวกโอเมก้าทั้งหลายช่วยขับพิษและกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน

วิตามินและอาหารเสริมที่กล่าวมาไม่ได้หมายถึงให้บริโภคในคราวเดียว แต่ควรเลือกดูตามอาการ และควรปรึกษาสัตวแพทย์ถึงผลข้างเคียงเสมอ

ส่วน อาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญให้หลีกเลี่ยงของหมักดอง มีวัตถุกันเสีย เช่น Ethoxyquine และ BHA ในบ้านเราที่หาได้ง่ายสามารถนำไปผสมกับอาหารอื่นได้ก็มี ข้าวกล้อง ข้าวโพด ธัญพืช พวกถั่วต่างๆ ลูกเดือย รำข้าว ผักเขียว แครอท บรอคโคลี่ กะหล่ำปลี จะเลือกแบบไร้สาร หรือใช้น้ำล้างเอาหลายๆ น้ำ ก็ได้ ส่วนเนื้อสัตว์ควรเป็นพวกปราศจากสารเร่ง ฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจจะยากสักนิดแต่ถ้าต้องทำกินในบ้านอยู่แล้วก็คงพอไหว นอกจากนี้พวกน้ำต้มเนื้อหรือกระดูกก็ใช้ได้ย่อยได้ง่าย ทั้งนี้ อย่าลืมว่าเจ้าเหมียวของเราเป็นมังสวิรัติไม่ได้นะ

ถึงคราวที่เราจะมาลองปรับใช้กับเจ้าเหมียวกันได้ แม้พวกเขาจะไม่ได้ป่วยแต่หากเราได้ดูแลในแนวทางที่เหมาะสมก็ยิ่งจะทำให้สุขภาพของพวกเขาแข็งแรงและห่างไกลจากโรคมากยิ่งขึ้น